วิธีเฉลยคำตอบที่ดีที่สุด คือ การให้เด็กคิดคำตอบด้วยตนเอง
การถามคำถามบางครั้ง..เรามักจะคุ้นชินกับการต้องมีเฉลย หรือมีคำตอบเสร็จสรรพเตรียมไว้ให้ แต่การฝึกให้ลูกคิดวิเคราะห์ ที่ใช้การสนทนาถาม-ตอบจากคำถาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การถามด้วย “คำถามปลายเปิด” ที่เป็นคำถามที่ช่วยให้มีพัฒนาการทางภาษา การพูด และการคิดได้ดีนั้น ยิ่งไม่จำเป็นต้องมี “เฉลย”
3 เหตุผลที่ไม่ควรมี “เฉลย”

1) ต้องการ…ฝึกความยืดหยุ่นทางความคิด…เราไม่ควรลอคสเปค “คำตอบ” ว่าต้องเป็นแบบนี้เท่านั้น
เพราะใน 1 คำถาม สามารถมีได้หลายคำตอบ มีทางแก้ปัญหามากกว่า 1 วิธี และคำตอบของเด็กก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนกับผู้ใหญ่
คำตอบที่ใช้การได้ ขึ้นกับหลายปัจจัย ทั้งประสบการณ์ ทั้งแนวคิด ดังนั้นการระบุว่าคำตอบของเรา เป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุด จึงไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเป็น
ถึงแม้จะไม่มีเฉลยให้ เราก็มั่นใจว่าพ่อแม่ที่ได้ฟังคำตอบของลูกอย่างแท้จริง จะทราบได้เองว่า “คำตอบ” ที่ลูกตอบมานั้น “ใช้ได้” หรือไม่ จึงเป็นเหตุผลแรกที่ไม่จำเป็นต้องมี “เฉลย”

2) ต้องการ…ฝึกเด็กให้เป็น Active Thinker… ยิ่งคิด ยิ่งได้
เพราะขณะที่กำลังคิดถึง “คำตอบ” เซลประสาทในสมองจะต้องเชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึง ไล่ไปตาม #แผนที่ภาษา ในสมอง ที่เด็กได้สร้างไว้ ไปจนกว่าจะค้นเจอและถ่ายทอดสื่อสาร “คำตอบ” ที่เหมาะสมด้วยตนเองออกมาให้ได้
ยิ่งคิด ก็ยิ่งดี ยิ่งเป็นประโยชน์ การระบุ “เฉลย” อาจจะเป็นการขัดขวางกระบวนการคิดและความสร้างสรรค์ของเด็กได้

3) การไม่มีเฉลย ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Discussion”
การสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันระหว่างพ่อแม่-ลูก จะเป็นสิ่งที่ต่อยอด #แผนที่ภาษา ของลูก ไปได้อีกไกล
ไม่ใช่ไกลธรรมดา แต่ไปไกลแบบก้าวกระโดด ต่อยอดพัฒนาไปสู่การเรียนรู้ด้านอื่น เพิ่มพูนประสบการณ์อื่นได้เป็นอย่างดี หรือพูดง่ายๆ …ลูกจะ ”ฉลาดมากขึ้น” “รอบรู้มากขึ้น” ผ่านการสนทนาแบบนี้
เพียงแค่เปิดโอกาสให้เด็กได้คิดหาคำตอบด้วยตนเอง จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องมี “เฉลย” เลย เพราะเด็กๆ เค้าหาคำตอบ ไปตอบคำถามนั่นได้ เชื่อสิ!!
CrafterCave Kids (คราฟเทอร์เคฟคิดส์) แบรนด์ผู้ออกแบบและจำหน่ายเกม ของเล่น และสื่อการเรียนรู้เสริมพัฒนาการทางภาษาและการสื่อสารของเด็กๆในแต่ละช่วงวัยโดยเฉพาะ
CrafterCave Kids ยังมีบทความอื่นๆที่น่าสนใจสำหรับคุณพ่อคุณแม่อยู่อีกนะ